Search for:
  • Home/
  • Sports News/
  • ครบ 100 วันสงครามกาซา! ประชาชนเรียกร้องปล่อยตัวประกัน

ครบ 100 วันสงครามกาซา! ประชาชนเรียกร้องปล่อยตัวประกัน

ท่ามกลางการสู้รบอย่างดุเดือดที่ขณะนี้เกิดขึ้นทางตอนใต้ของฉนวนกาซา หลังประกาศเข้าสู่สงครามเฟสใหม่ รัฐบาลอิสราเอลเผชิญต่อคำถามและแรงกดดันจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวประกันออกมาจากการควบคุมของกลุ่มฮามาสได้สำเร็จตามที่ได้สัญญาไว้

ล่าสุดเมื่อวานนี้ ประชาชนชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนทั่วประเทศได้ออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันที่เหลือออกมาในวาระครบรอบสงคราม 100 วัน

สถานการณ์กาซาวิกฤต ขณะศาลฯเริ่มไต่สวนคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

อิสราเอลเผย พบโรงงานอาวุธขนาดใหญ่ของฮามาสในฉนวนกาซา

พื้นที่หนึ่งที่มีการจัดชุมนุมคือในกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของประเทศอิสราเอลการออกมารวมตัวเรียกร้องการปล่อยตัวประกันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นที่ ‘จัตุรัสตัวประกัน’ หรือ Hostages Square บริเวณใจกลางเมือง

โปสเตอร์ภาพตัวประกันที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวจากฉนวนกาซาถูกติดไว้ พร้อมนาฬิกาดิจิทัลนับวันเวลาตั้งแต่ที่ตัวประกันถูกจับและโต๊ะอาหารที่ปราศจากคนนั่ง เป็นสัญลักษณ์ของการรอตัวประกันกลับมาอีกครั้ง

การชุมนุมใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจัดขึ้นภายใต้ชื่อ ‘100 วันแห่งความทุกข์ทรมาน’ โดยจัดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงและมีประชาชนชาวอิสราเอลราวหลายหมื่นคนออกมารวมตัวกันเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันการชุมนุมเริ่มต้นด้วยการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 100 วินาที เท่ากับจำนวนวันที่ตัวประกันถูกจับ

หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้คือ จิมมี มิลเลอร์ ซึ่งเป็นญาติของครอบครัว ‘บีบาส’ ที่ขณะนี้ทั้งครอบครัวยังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของกลุ่มฮามาส รวมถึงลูกชาย 2 คน ญาติรายนี้ออกมาส่งสัญญาณกดดันให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือตัวประกัน โดยได้ตั้งคำถามไปยังผู้นำอิสราเอลว่า ได้ดำเนินการอะไรเพื่อช่วยตัวประกันออกมาจากฉนวนกาซาแล้วบ้าง โดยเฉพาะลูกชายของครอบครัวบีบาสที่จะมีอายุครบ 1 ปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นอกจากนี้ ร้านค้าและร้านอาหารหลายแห่งก็ได้ปิดทำการเป็นเวลา 100 นาทีเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับตัวประกันเช่นกัน ตามการประกาศของสหภาพแรงงาน

การชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันยังเกิดขึ้นในอีกหลายพื้นที่ของอิสราเอล เช่น นครเยรูซาเลม ขณะเดียวกัน ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ประชาชนหลายพันคนก็ได้ออกมารวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์เช่นกัน

นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลและจับตัวประกันชาวอิสราเอลและชาติอื่นๆ รวม 240 คนเข้าไปควบคุมตัวภายในฉนวนกาซ การปลดปล่อยตัวประกันเกิดขึ้นแล้วเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤจิกายนที่ผ่านมา โดยที่อิสราเอลยอมหยุดโจมตีฉนวนกาซาเพื่อมนุษยธรรมเป็นการชั่วคราวในระยะเวลา 7 วัน เพื่อแลกกับการที่กลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกันออกมา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังเหลือตัวประกันที่ไม่ได้รับการปล่อยตัวออกมา 130 คน และยังไม่มีความคืบหน้าของข้อตกลงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกันระลอกใหม่ออกมา

ส่งผลให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เผชิญต่อแรงกดดันและคำถามจากครอบครัวของตัวประกันและประชาชนตลอดว่า ปฏิบัติการทางการทหารของกองกำลังอิสราเอลที่กำลังดำเนินอยู่อย่างรุนแรง จะนำไปสู่การช่วยเหลือตัวประกันได้จริงหรือไม่ ขณะที่ประชาคมโลกและพันธมิตรสำคัญอย่างสหรัฐฯ ก็ได้กดดันให้อิสราเอลลดระดับความรุนแรงของปฏิบัติการลง

อย่างไรก็ดี ในวันครบรอบ 100 วันของสงคราม นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูก็ได้ออกมายืนยันเป้าหมายของอิสราเอลอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า อิสราเอลจะยังทำสงครามต่อกลุ่มฮามาส จนกว่าจะได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์และบรรลุเป้าหมายทั้งหมด นั่นก็คือการกวาดล้างกลุ่มฮามาส ช่วยเหลือตัวประกันที่เหลือออกมาจากการควบคุมของกลุ่มฮามาสให้ได้ และประกันว่าฉนวนกาซาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของอิสราเอลต่อไปในอนาคต

ล่าสุดการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด มีรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องว่าขณะนี้พื้นที่ต่อสู้สำคัญอยู่ที่เมืองข่าน ยูนิสทางตอนใต้ของฉนวนกาซา

ขณะที่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ต่างอพยพลงไปทางตอนใต้อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งของอิสราเอล จนบางส่วนลี้ภัยจนเกือบประชิดชายแดนอียิปต์แล้ว จำนวนไม่น้อยที่ต้องอพยพพลัดถิ่นมากกว่า 1 ครั้ง การโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลตลอด 100 วันที่ผ่านมาส่งผลให้มีพลเรือนชาวกาซาเสียชีวิตแล้วราว 24,000 ราย บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 60,000 คนตามการรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา

ในวันที่สงครามกาซาครบรอบ 100 วัน กลุ่มฮามาสได้ปล่อยภาพตัวประกันที่ยังอยู่ในการควบคุมอีกครั้ง

ฮามาสปล่อยภาพตัวประกัน เตรียมเปิดเผยชะตากรรม

เมื่อวานนี้ กลุ่มฮามาสได้เปิดเผยภาพวิดีโอตัวประกันชาวอิสราเอลออกมาอีกระลอกโดยตัวประกัน 3 รายที่ปรากฏตัวในวิดีโอได้แก่ โนอา อาร์กามานิ หญิงวัย 26 ปี ยอสซิ ชาราบิ ชายวัย 53 ปี และอิตัล สเวียร์สกี ชายวัย 38 ปี พร้อมระบุในช่วงท้ายของวิดีโอไว้ว่า "พรุ่งนี้เราจะแจ้งให้ทราบถึงชะตากรรมของพวกเขา"

การเปิดภาพตัวประกันของกลุ่มฮามาส เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่โฆษกปีกทหารของกลุ่มฮามาสออกมาระบุว่า ได้ขาดการติดต่อกับตัวประกันบางรายไปขณะที่กองกำลังอิสราเอลโจมตีพื้นที่ในฉนวนกาซาโดยที่ไม่ทราบชะตากรรม และคาดว่าเสียชีวิตระหว่างที่เกิดการโจมตี อย่างไรก็ดี ฝ่ายกองกำลังอิสราเอลไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการออกมาพูดถึงชะตากรรมของตัวประกันจากกลุ่มฮามาส

สงครามในฉนวนกาซาที่ไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุดลง ส่งผลให้ความตึงเครียดขยายออกไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง พื้นที่หนึ่งที่หลายฝ่ายจับตาอย่างมากคือน่านน้ำทะเลแดง หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรตัดสินใจเปิดฉากถล่มหลายพื้นที่ในเยเมนเพื่อเป็นการตอบโต้ที่กลุ่มฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์ที่แล่นผ่านบริเวณน่านน้ำสากลหลายครั้ง ป้องปรามไม่ให้กลุ่มฮูตีโจมตีอีกและลดขีดความสามารถของกลุ่มฮูตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พื้นที่ทะเลแดงยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง ล่าสุดกองทัพสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สามารถสกัดจรวดของกลุ่มฮูตีที่มุ่งเป้ายิงมายังเรือรบของสหรัฐฯ ได้

สหรัฐฯ สกัดขีปนาวุธฮูตีที่มุ่งโจมตีเรือรบ

หน่วยบัญชาการทหารสหรัฐฯ ภาคกลาง หรือ US Central Command ได้โพสต์ข้อความในแอปพลิเคชัน X เกี่ยวกับการโจมตีระลอกล่าสุดของกลุ่มกบฏฮูตีในทะเลแดง โดยระบุว่า เมื่อวานนี้เวลา 16.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงซานา เครื่องบินรบของสหรัฐฯ สามารถสกัดขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือรบซึ่งยิงมาจากพื้นที่ฐานที่มั่นของกบฏฮูตีได้ 1 ลูก

เป้าหมายของจรวดดังกล่าวมุ่งโจมตีที่ไปเรือ ‘ยูเอสเอส ลาบูน’ เรือพิฆาตขีปนาวุธ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือรบที่สหรัฐฯ ส่งมาประจำการบริเวณทะเลแดงร่วมกับเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวน์ อย่างไรก็ดี เครื่องบินรบของสหรัฐฯ สามารถสกัดจรวดของกลุ่มฮูตีได้ และไม่มีรายงานความเสียหายหรือบาดเจ็บออกมา

นี่คือความตึงเครียดล่าสุดในบริเวณทะเลแดง หลังจากตลอดกว่า 1 เดือนที่ผ่านมากลุ่มกบฏฮูตีได้เปิดฉากโจมตีพื้นที่ในทะเลแดง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางการค้าหลักที่เชื่อมระหว่างยุโรปกับเอเชีย โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของทะเลแดงคือ คลองสุเอซ ส่วนด้านใต้คือ ช่องแคบบับ อัล-มันเดบ ซึ่งเป็นจุดออกไปสู่อ่าวเอเดน ทะเลอาหรับ และมหาสมุทรอินเดีย

ที่ผ่านมากลุ่มฮูตีอ้างว่า การโจมตีในพื้นที่ทะเลแดงเป็นไปเพื่อกดดันให้อิสราเอลหยุดทำสงครามในฉนวนกาซา และหากอิสราเอลไม่หยุดรุกรานฉนวนกาซา กลุ่มฮูตีก็จะไม่หยุดโจมตีเรือที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในทะเลแดง

อย่างไรก็ตาม การโจมตีบริเวณน่านน้ำสากลทะเลแดงเกือบ 30 ครั้งนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมถึงการโจมตีเรือพาณิชย์ที่แล่นผ่านบริเวณดังกล่าว ซึ่งมักมีความเกี่ยวข้องกับอิสราเอลน้อยมากหรือไม่มีเลย

ส่งผลให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะสหรัฐฯ และพันธมิตรกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำลายเสรีภาพในการเดินเรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ

การโจมตีระลอกใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในวันพุธที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มฮูตีได้ยิงขีปนาวุธและส่งโดรนเข้าไปโจมตีบริเวณเส้นทางเดินเรือทั้งหมด 21 ลูก/ลำ ตามมาด้วยการโจมตีอีกครั้งที่เส้นทางการเดินเรือสากลบริเวณอ่าวเอเดน จนเรือพาณิชย์ลำหนึ่งได้รับความเสียหาย

ต่อมาในวันศุกร์ 12 มกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และพันธมิตรก็ได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮูตีในเยเมน จุดประสงค์ของการโจมตีคือ เพื่อลดระดับความสามารถของกลุ่มกบฏฮูตีในการโจมตีเรือรบของสหรัฐฯ โดยเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ระบบเรดาร์ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และสถานที่จัดเก็บและปล่อยโดรน ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธทิ้งตัวที่กลุ่มฮูตีใช้โจมตีเรือในน่านน้ำทะเลแดง และเพื่อป้องปรามไม่ให้กบฏฮูตียกระดับการโจมตีขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม คำถามมีอยู่ว่าการโจมตีของสหรัฐฯ และพันธมิตรสามารถลดระดับขีดความสามารถทางการทหารของกลุ่มฮูตีได้จริงหรือไม่ ล่าสุด สำนักข่าว เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยตัวตนสองราย โดยระบุว่า แม้การโจมตีครั้งล่าสุดของสหรัฐฯ และพันธมิตรจะสามารถทำลายเป้าหมายได้ราวร้อยละ 90 แต่ความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นคิดเป็นเพียงแค่ร้อยละ 20-30 ของศักยภาพทางการทหารที่กลุ่มฮูตีมีคำพูดจาก เป๋าเงินจริงสำ

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ ฮัสซาน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธที่มีฐานที่มั่นในเลบานอนและมีอิหร่านหนุนหลังก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การโจมตีกบฏฮูตีของสหรัฐฯ และพันธมิตร โดยระบุว่า

การกระทำของสหรัฐฯ เป็นการบั่นทอนเสรีภาพในการเดินเรือบริเวณทะเลแดง อีกทั้งยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ คิดผิดที่มองว่าการโจมตีเช่นนี้จะหยุดกบฏฮูตีได้

การยิงขีปนาวุธโจมตีไปยังเรือยูเอสเอส ลาบูนของสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด สะท้อนชัดเจนว่า กลุ่มฮูตียังมีขีดความสามารถทางการทหารเหลืออยู่ และการป้องปรามของสหรัฐฯ และพันธมิตรอาจยังไม่บรรลุผล

ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งโอเพนซอร์ส ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองออนไลน์อิสระชี้ว่า เรือยูเอสเอส ลาบูน ซึ่งเป็นเรือรบพิฆาตที่ถูกกลุ่มกบฏฮูตีโจมตี เป็นเรือที่แล่นอยู่ทางใต้ของทะเลแดง ไม่ไกลจากช่องแคบบับ อัล-มันเดบ ในพื้นที่ชายฝั่งของเยเมน

เรือยูเอสเอส ลาบูน เป็นหนึ่งในเรือที่ปฏิบัติการร่วมกับกองเรือยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ ของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในทะเลแดงทางพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน ตอนนี้มีเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบของสหรัฐฯ อย่างน้อย 8 ลำประจำการอยู่ในพื้นที่ทะเลแดงและอ่าวเอเดนภายใต้กองเรือดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ชาติพันธมิตรปกป้องทะเลแดงก็ได้ส่งเรือรบของตนเองไปประจำการในพื้นที่แห่งนี้ราวๆ 14 ตำแหน่ง ตั้งแต่ทางตอนเหนือของทะเลแดงไปจนถึงอ่าวเอเดน และน่านน้ำทะเลอาหรับ เรือรบเหล่านี้ถูกส่งมาเพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าและป้องปรามไม่ให้ความขัดแย้งในทะเลแดงลุกลามบานปลาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าความตึงเครียดในทะเลแดงจะลดลง

อีกพื้นที่หนึ่งที่ความขัดแย้งขยายวงไปคือบริเวณชายแดนทางตอนเหนือของอิสราเอลและทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งเป็นพื้นที่ของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ตลอด 100 วันที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลและเฮซบอลเลาะห์ต่างโจมตีด้วยปืนใหญ่และจรวดตอบโต้กันไปมา

อิสราเอล-เฮซบอลเลาะห์โจมตีตอบโต้

การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพอิสราเอลได้ปล่อยภาพที่ระบุว่า เป็นการโจมตีเป้าหมายของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน

นี่เป็นการโจมตีตตอบโต้ที่เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ได้ยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถังเข้ามาในพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลกองทัพอิสราเอลระบุว่า ขีปนาวุธได้โจมตีไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงวัย 76 ปีและชายไม่ทราบอายุ ขณะที่ก่อนหน้านั้น อิสราเอลได้สังหารกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบสังกัด 4 รายที่พยายามแทรกซึมเข้ามายังบริเวณชายแดนอิสราเอล

พยากรณ์อากาศล่วงหน้า เตือนฝนถล่ม ก่อนกลับมาหนาวอีกรอบ

อัปเดตเอลนีโญใกล้จบ ไทยร้อนเร็ว-ร้อนหนัก แนะเตรียมเงินจ่ายค่าแอร์

เปิดสถิติหวยออกงวดวันที่ 17 มกราคม หวยวันครู ย้อนหลัง 15 ปี